เรือกู้ชีพ สธ.จมในแม่น้ำป่าสัก กรุงเก่า
อยุธยา 25 มีค.- เรือกู้ชีพ”สธ.ลันตา”จากกระบี่ ช่วยภารกิจน้ำท่วมเมืองกรุงเก่า จอดอยู่ดีๆน้ำลดลงตอไม้แทงทะลุท้องเรือจมน้ำครึ่งลำ อุปกรณ์ทางการแพทย์เสียหาย ยังกู้ไม่ได้
เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 25 มี.ค. นาวาโท รชต ผกาฟุ้ง ผอ.สำนักงานเจ้าท่าพระนครศรีอยุธยา รับแจ้งจาก นพ.สมพงษ์ บุญสืบชาติ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่ามีเรือกู้ชีพของสาธารณสุขจมลงในแม่น้ำป่าสัก บริเวณหน้าศาลาท่าน้ำหน้าสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต.หอรัตนไชย อ.พระนครศรีอยุธยา จึงพร้อม นพ.สมชัย วิโรจน์แสงอรุณ รอง สสจ.พระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่านำเรือเร็ว ออกไปตรวจสอบบริเวณที่รับแจ้งทันที
พบว่าที่ด้านหน้าศาลาท่าน้ำหน้าสำนักงานสาธารณสุข มีเรือสปีดโบสท์ขนาดใหญ่ยาวประมาณ 18 ฟุต ท้องลึกเกือบ 2 เมตรกว่ากว่า 2 เมตร ด้านท้ายเรือมีเครื่องยนต์ขนาด 200 แรงม้าจำนวน 2 เครื่องจมลงไปในน้ำเกือบครึ่งลำเรือ น้ำท่วมเข้าไปในตัวเรือทำให้อุปกรณ์ภายในเรือที่ส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้รับความเสียหาย และพบว่าที่ท้องเรือด้านขวาถูกตอลักษณะเป็นเสาไม้สะพานแทงทะลุเข้าไปในเรือยาวประมาณ 1 เมตร จึงได้ช่วยกันใช้เชือกผูกรั้งตัวเรือเอาไว้กับศาลาท่าน้ำ
นาวาโท รชต เปิดเผยว่าเบื้องต้นได้แนะนำให้นำอุปกรณ์ที่สำคัญออกจากเรือแล้ว ซึ่งขณะนี้เรือถูกตอไม้แทงทะลุอยู่ได้เนื่องจากใช้เชือกรั้งเอาไว้กับศาลาและส่วนหนึ่งระดับน้ำขึ้นมาอุ้มเอาไว้ จึงต้องใช้เครื่องสูบน้ำสูบน้ำออกตลอดทั้งคืน จากนั้นตอนเช้าจึงจะทำการกู้ เนื่องจากช่วงที่เกิดเหตุไม่สามารถหาอุปกรณ์หรือเรือมาช่วยเหลือได้ ส่วนสาเหตุที่เรือจมนั้น เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ของสาธารณสุข ได้ย้ายเรือดังกล่าวออกมาจอดที่หน้าท่าน้ำ โดยไม่ทราบว่าด้านใต้มีตอไม้ซึ่งเป็นเสาสะพานเดิม เป็นช่วงที่น้ำเกิดลดลงอย่างมาก ทำให้ท้องเรือถูกเสาสะพานที่จมอยู่ในน้ำแทงจนทะลุ และท้ายเรือจมลงดังกล่าว ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการกู้ช่วงเช้าจะปลอดภัยที่สุด
นพ.สมพงษ์ กล่าวว่า เรือลำนี้มีราคากว่า 3 ล้านบาท ภายในมีห้องนอนผู้ป่วย และอุปกรณ์ช่วยชีวิต มีระบบเครื่องปรับอากาศ และจีพีเอส ปกติจะใช้ขนย้ายผู้ป่วยอยู่ที่ภาคใต้ ในช่วงน้ำท่วมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวิทยา บุรณศิริ รมต.สาธารณสุข ได้ขอยืมมาจากจ.กระบี่ เพื่อมาช่วยเหลือในการลำเลียงผู้ป่วย จนน้ำลดแล้วยังไม่ได้นำกลับไป ปกติ มีนายสง่า ไวยไชยา อายุ 48 ปี เป็นผู้ดูแล ก่อนเกิดเหตุได้เคลื่อนย้ายเรือจากด้านริมรั้วหน้าสำนักงานมาอยู่หน้าศาลาท่าน้ำ เนื่องจากระดับน้ำลดลงเรื่อยๆ จนกระทั่งน้ำลดในช่วงบ่ายทำให้เรือลงไปกระแทกกับตอไม้ดังกล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น